สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Singapore Changi Airport) หรือ สนามบินชางงี เป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมทางอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนามบินแห่งนี้ได้รับรางวัลสนามบินยอดเยี่ยมของโลกจาก Skytrax และรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 500 รางวัลเรื่อยมาตั้งแต่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2524 และมีการขยับขยายสนามบินมาโดยตลอดจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ทันสมัยและมีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในโลก
ท่าอากาศยานฟุกุโอะกะ (Fukuoka Airport) ตั้งอยู่ภายในเขตฮะกะตะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่าฐานทัพอากาศอิตะซุเกะ เพราะเคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกามาก่อน โดยท่าอากาศยานแห่งนี้ถือเป็นท่าอากาศยานอันดับสองในญี่ปุ่น ที่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนั้นยังสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนเพราะเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของเมืองด้วยรถไฟใต้ดินและถนนหนทางที่สะดวกต่อกาสัญจรไปในย่านต่างๆ
วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) อยู่ในเมืองซาซะกูริ (Sasaguri) สามารถนั่งรถไฟจากฟุกุโอกะ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น วัดนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างโด่งดังในเกาะคิวชู แต่กลับไม่ค่อนเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ว่ากันว่าวัดนี้คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางแสวงบุญซาซะกูริ ที่มีทางเดินต่อไปอีก 88 วัด และเส้นทางซาซะกูรินี้คือ 1 ใน 3 เส้นทางแสวงบุญ
เมืองยูฟุอิน (Yufuin) ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านบ่อน้ำพุร้อน และก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ภูเขายูฟุ และทะเลสาบคินริน ถนนสายหลักในตัวเมืองเต็มไปด้วยร้านคาเฟ่ ร้านขายของ และแหล่งพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก ๆ ที่ให้ความรู้สึกเป็นพื้นที่ทันสมัย มากกว่าเมืองอื่น ๆ ที่เป็นแหล่งบ่อน้ำพุร้อน
เมืองเบปปุเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโออิตะ ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ และเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของออนเซ็น เนื่องจากตัวเมืองนั้นอยู่ติดกับภูเขาไฟอะโสะ จึงทำให้มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วเมือง จนทำให้หากใครขับรถผ่านเมืองแห่งนี้ หรือหากมองมาจากมุมสูงก็จะเห็นหมอกควันพวยพุ่งอยู่เหนือเมือง ดังนั้นกิจกรรมหลักของเมืองแห่งนี้ที่ใครๆ หากมาแล้วต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการแช่ออนเซ็นนั่นเอง
บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Jigoku Meguri Beppu) หรือ นรกบ่อเลือด เป็นบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ น้ำในบ่อมีสีแดงคล้ายเลือด เนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมาก เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญและขึ้นชื่อของเมืองเบบปุ โดยบ่อนรกจิโกกุ มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 8 บ่อ ซึ่งแต่ละบ่อล้วนมีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างกันไป
ตลาดปลาคาราโตะ (Karato Market) ตั้งอยู่ที่เมืองชิโมโนเซกิ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามตลาดฟุกุ หรือตลาดปลาปักเป้า ที่เป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้ ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับอาหารทะเลสด ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าแล่ปลาออกมา เราสามารถทานได้ทั้งแบบปลาดิบ หรือจะให้ทำแบบสุกก็ได้เช่นกัน
สะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge) หรือสะพาน 5 โค้ง เป็นสะพานไม้ที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งจะใช้สลักไม้แทนมีหมุดเหล็กเหมือนตะปู สะพานนี้มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สะพานที่มีชื่อเสียงสุดในญี่ปุ่น ในสมัยโบราณเป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำของเหล่านินจา จากมุมของตัวสะพาน เราสามารถมองเห็นปราสาทอิวาคุนิตั้งอยู่บนยอดเขา กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ การล่องเรือชมสะพานคินไตเคียว เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน บริเวณรอบ ๆ สะพานจะเต็มไปด้วยความงดงามสีชมพูของดอกซากุระ
เมืองฮิโรชิม่าเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิม่าและมีการปกครองในรูปแบบพิเศษ ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการทหารของญี่ปุ่น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่อเมริกาเลือกฮิโรชิม่าเป็นเป้าหมายโจมตีด้วยระเบิดปรมาณู แต่ปัจจุบันเมืองฮิโรชิมากลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในระดับโลก นั่นก็คือ อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า อันเป็นที่ตั้งของฮิโรชิมาโดม อาคารแห่งเดียวที่เหลือรอดจากระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945
เกาะมิยาจิม่า (Miyajima Island) เป็นชื่อที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน ชื่อทางการของที่นี่คือ เกาะอิทสึคุชิมะ (Itsukushima) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ที่เมืองฮะสึไกชิ จังหวัดฮิโรชิมะ เดินทางไปจากตัวเมืองฮิโรชิมะไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ที่นี่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เกาะแห่งเทพเจ้า” ได้รับการจดทะเบียนให้เป็มรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก มิชลีนไกด์ยังให้คะแนนแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ถึงสามดาว และยังเป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
อะตอมมิคบอมบ์โดม (Atomic Bomb Dome) เดิมทีอาคารหลังนี้เป็นหอส่งเสริมอุตสาหกรรมฮิโรชิม่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างด้วยความแข็งแรงและทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงมานั้นมีระยะห่างจากอาคารหลังนี้เพียง 160 เมตร ทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้นพังราบเป็นหน้ากอง ยกเว้นอาคารหลังนี้ที่ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเสียหายให้คนรุ่นหลัง ได้รับรู้ถึงอนุภาพการทำลายล้างของระเบิดปรมาณู จึงทำให้อาคารหลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความน่ากลัวของระเบิดปรมาณู
ปราสาทฮิโรชิมา (Hiroshima Castle) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมือง ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1590 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1945 ถูกทำลายโดยระเบิดปรมาณู ในช่วงสงคราม ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1958 โดยตัวปราสาทสร้างจากไม้ มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำ ภายในปราสาทจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของเมืองฮิโรชิมา ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่ท่านจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองฮิโรชิมาได้อย่างชัดเจน
คุราชิกิ ในอดีตเปรียบเสมือนศูนย์กลางการกระจายข้าวสู่ภูมิภาคต่างๆของประเทศ ภายในเมืองจึงเต็มไปด้วยโกดังหรือฉางข้าวอันมีความโดดเด่นด้วยตัวกำแพงหินสีขาว มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมืองเล็กๆอันเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้ นอกจากนี้เมืองคุราชิกิยังมีชื่อเสียงในเรื่องของเขตเมืองเก่า ท่านจะได้สัมผัสวิถิชีวิตของชุมชนริมคลองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทันสมัยและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี2002 มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นสถานที่แสดงพันธุ์ปลาทะเล ปะการัง ปลาฉลามมากมาย สร้างบนพื้นที่กว่า19,000ตรม มีแท๊งน้ำมากถึง77แทงค์ แบ่งออกเป็น4ชั้น แต่ละชั้นแบ่งแยกไปตามโซน คือ Great Sea,Coral Reef,Black Current Sea และ Deep Sea เชิญชมการจำลองระบบนิเวศน์ที่เหมือนจริง,ปลาตัวเล็กมากมายว่ายน้ำผ่านดงปะการังหลากสี,งูทะเล ปลิงทะเล หอยเม่น กุ้งมังกรยักษ์ ปูอลาสก้า,ตู้ปลาอะคลีลิคใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นที่สุดของความอลังการ
สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) สวนริทสึริน หนึ่งในสวนมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่มีอายุกว่า 400 ปี สวนที่ยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้มากที่สุดตามแบบเต๋าและเซน สวนแห่งนี้สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความงดงามที่ต่างกัน นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือน
ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Singapore Changi Airport) หรือ สนามบินชางงี เป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมทางอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนามบินแห่งนี้ได้รับรางวัลสนามบินยอดเยี่ยมของโลกจาก Skytrax และรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 500 รางวัลเรื่อยมาตั้งแต่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2524 และมีการขยับขยายสนามบินมาโดยตลอดจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ทันสมัยและมีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในโลก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553