สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
เมืองโนโบริเบตสึ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานตากอากาศที่มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ที่นี่ยังถือเป็นเมืองแห่งยักษ์ เนื่องจากว่าภูเขาไฟในเมืองนี้ยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จึงมีความเชื่อว่ายักษ์เหล่านี้จะคอยคุ้มครองชาวเมือง ดังนั้นจึงมีรูปปั้นยักษ์ต่างๆ ทั่วเมือง รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีก โดยเฉพาะหุบเขาจิโกกุดานิหรือหุบเขานรก
โนโบริเบทสึ มารีน พาร์ค นิกเซ่ คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองโนโบริเบทสึ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟโนโบริเบทสึ ทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดทางภาคเหนือของประเทศ ภายในนอกจากจะมีปราสทนิกเซ่ที่ถอดแบบมาจากปราสาทเดนมาร์กแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะมีโอกาสได้เจอสัตว์น้ำประเภทต่างๆ อย่างใกล้ชิด อย่างฉลามมอเรย์ ปลาหมึกยักษ์ ปูเกือกม้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโชว์พิเศษที่เป็นไฮไลท์สำคัญอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือขบวนพาเหรดเพนกวินจักพรรดิขวัญใจของเด็กๆ นั่นเอง
กระเช้าอุสุซัง (Usuzan Ropeway) เป็นกระเช้าที่ทั้งอำนวยความสะดวกการเดินทางและสามารถเห็นวิวทิวทัศน์งามๆได้พร้อมๆกันโดยจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังบริเวณที่ใกล้กับยอดภูเขาไฟอุสุจากจุดนั้นสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบโทยะและภูเขาโชวะชินซัน รวมไปถึงจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งก็จะเห็นวิวของมหาสมุทรและหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟอุสุในปี ค.ศ.1977
สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ (Usuzan Ropeway) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่คือ น้องหมีจะมาโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ
เมืองโอตารุตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดและอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทั้งยังเป็นเมืองท่าหลักของอ่าวอิชิคะริ เนื่องจากเมืองแห่งนี้จะหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิคะริ ส่วนด้านหลังของเมืองนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 3 ด้านด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นทางลาดเอียงลงสู่ทะเล จึงทำให้บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามไหล่เขา และทำให้ที่นี่กลายแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีพื้นที่สำหรับเล่นสกีอันมีชื่อเสียง และยังมีน้ำพุร้อนให้แช่อีกหลายแห่งด้วย
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแก้วน้ำ แจกัน ถ้วยชาม พวงกุญแจ ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างที่สุด
ฮอกไกโด นั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองและตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น สภาพอากาศและภูมิประเทศที่นี่จะแตกต่างจากส่วนอื่นของญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ในฤดูหนาว อุณหภูมิก็จะติดลบ เมืองทั้งเมืองปกคลุมด้วยหิมะละเอียด ฮอกไกโดเป็นสถานที่สำหรับเล่นสกีติดอันดับโลก ส่วนในฤดูร้อนที่ฮอกไกโดก็จะปกคลุมด้วยดอกไม้หลากสีสัน ต้นไม้เขียวขจีแตกต่างจากฤดูหนาวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมกิจกรรท ชมดอกไม้ ปีนเขา และขี่จักรยาน
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โดยมีหลังคาจั่วสีฟ้าเขียวเป็นเอกลักษณ์ เป็นตลาดทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุประมาณ 100 ปีย้อนหลังสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1903 และตลาดแห่งนี้รู้จักกันในนาม “ครัวทะเลของชาวเมืองซัปโปโร” ตลาดแห่งนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝาก เช่น ปูและหอยเชลล์ เป็นต้น และในตลาดปลายังมีอาคารที่รวบรวมร้านอาหารที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไว้มากมาย
เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) ตั้งอยู่ทางเหนือของซัปโปโร เป็นผลงานชนเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซเกอร์ โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป มีความสูงมากถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1,500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อย ๆ ลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม สามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในทุก ๆ ฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว ซึ่งให้เราเชยชมความงามของสถานที่แห่งนี้ และสัมผัสพุทธศาสนาในมุมมองที่ต่างจากเดิม
มิตซุย เอาท์เลตพาร์ค (Mitsui Outlet Park) เป็นศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัย แหล่งรวมพลของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลก ประกอบด้วยแบรนด์ดังถึง 128 แบรนด์ อาทิ Coach Armani, Ralph Lauren, Seigo เพียบพร้อมด้วยสินค้าสำหรับทุกคน ตั้งแต่สินค้าแฟชั่นหญิงชายและเด็ก รวมไปถึงอุปกรณ์กีฬาและสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ ภายในห้างยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 650 ที่นั่ง เลยทีเดียว
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553