หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองราบัต (Rabat) เมืองยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในแถบทะเลแอตแลนติก ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศโมร็อคโค และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากสภาพบ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษอันเกิดจากการผสมผสานระหว่างชุมชนมุสลิมดั้งเดิม นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปสัมผัสแล้ว ประเทศโมร็อกโกยังมีรอยยิ้มที่เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ ชอบพบปะกับเหล่านักศึกษาจากทั่วโลกที่เข้ามาโมร็อกโก โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรม และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอยู่เสมอ
สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Mohammed V Mausoleum) พระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น ในบริเวณกว้าง 183x139 เมตร
เมืองเชฟชาอูน (CHEFCHAOUEN) หรือ เรียกกันอีกชื่อว่า เมืองสีฟ้า เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้จะถูกทาด้วยสีฟ้าและสีขาว โดยตัวบ้านและทางเดินส่วนใหญ่นั้นด้านบนจะเป็นสีฟ้าและด้านล่าง เปรียบเสมือนท้องฟ้าและก้อนเมฆที่งดงาม เชฟชาอูนเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างทั่วถึง นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงความสงบ เรียบร้อย ความสบายตาสบายใจ กับเมืองเล็กๆอันน่าประทับใจแห่งนี้
เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (Merdersa BouImania) เป็นโรงเรียนสอนศาสนาขนาดใหญ่ สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์มัวร์ ซึ่งมีลวดลายที่สวยงามละเมียดละไมเป็นอย่างมาก และบริเวณทางเดินก่อนจะเข้าสู่มัสยิด จะมีบ่อน้ำพุธรรมชาติให้ชาวมุสลิมได้ล้างหน้าและล้างมือก่อนที่จะเข้าชมในตัวมัสยิดต่อไป
สุสานของมูเลไอดริสที่ 2 (Mouley Idriss Mausoleum II) ที่ชาวโมรอคโคถือว่าเป็นแหล่งมาแสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยชายชาวมุสลิมจะมาขอพรก่อนการเข้าสุหนัต และหญิงสาวชาวมุสลิมมักจะมาขอพรเพื่อให้ได้บุตร
สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairouine Mosque) ซึ่งเป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมรอคโคและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว (อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น)
ประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) เป็นประตูเมืองที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโมรอคโค เป็น 1 ใน 7 ประตูที่มีความงดงามวิจิตรการตา ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสด เน้นใช้สีเขียวและสีส้มตัดกันอย่างสวยงามลงตัว ซึ่งประตูแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กำแพงเมืองเมคเนส
เมืองอิเฟรน (Ifrane) เปรียบเสมือนเมืองตากอากาศ ที่แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ต้นไม้อันเขียวขจี ทะเลสาบอันสวยงาม อากาศสบายๆ เหมาะแก่พักผ่อน และในฤดูหนาวที่เมืองนี้จะมีหิมะปกคลุม ซึ่งเมืองอิเฟรนนี้ได้ถูกเรียกได้ว่า เป็นสวิตเซอร์แลนด์บนแดนโมรอคโคกันเลยทีเดียว
เมืองเออร์ฟูด์ (Erfoud) ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย และซูดาน
ทะเลทรายซาฮาร่า (SAHARA DESERT) ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในโลกคือ มีเนื้อที่ประมาณ 9.3 ล้านตารางกิโลเมตร (ใหญ่เท่าอเมริกาทั้งประเทศ) และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ทะเลทรายซาฮาร่ามีสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของชีวิตมนุษย์ สัตว์ หรือพืช เพราะฝนตกน้อยมาก และพื้นที่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ หากมีสัตว์และพืชพันธุ์ใดที่สามารถเติบโตในทะเลทรายได้ ก็ต้องปรับตัวกันอย่างมาก เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ต้องหาวิธีในการใช้ชีวิตให้อยู่รอดได้
เมืองวอซาเซต (Ouarzazate) เป็นเมืองที่รัฐบาลโมรอคโคสนับสนุนให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นทะเลทราย จึงมีการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวส่งเสริม เช่น กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย การขี่มอเตอร์ไซด์ การขี่อูฐ เป็นต้น และเมืองวาซาเซต ยังเป็นเมืองที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังมากมาย เช่น Lawrence of Arabia, Alexander, Kingdom of Heaven, Gladiator เป็นต้น
เมืองมาราเกช (Marakesh) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู
เจมา เอล ฟนา (Djemaa El Fnaa) จัตุรัสกลางเมือง มาราเกช เป็นสถานที่ใช้จัดแสดงโชว์พื้นเมืองต่างๆ เช่น โชว์การเต้นในสไตล์โมรอคโก โชว์มายากล โชว์หมองู อีกทั้งยังบริการต่างๆ และร้านค้า ร้านอาหาร ใหนักท่องเที่ยวได้ชิมรสชาติอาหารพื้นเมืองพร้อมชมการแสดงพื้นต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน
มัสสยิดคูตูเบีย Koutoubia Mosque มัสยิดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองมาราเกซ ไม่ว่าจะเดินไปแห่งใดก็จะเห็นหอคอยของมัสยิดที่มีความสูง 70 เมตร
สุสานแห่งราชวงศ์ซาเดียน (Saadian Tombs) เป็นสุสานที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดดเด่นด้วยสถาปตัยนกรรมศิลปะแบบมัวริส (Moorish) มีห้องโถงขนาดกว้างขวาง ประดับด้วยเสาหินอ่อนแกะสลักยอดปลายเสา ผนังและเพดานเป็นงานปูนลวดลายประณีต วิจิตรงดงามแก่ผู้ได้มาเที่ยวชมให้ได้สัมผัสถึงศิลปะแบบฉบับโมรอคโคที่สวยงามเกินบรรยาย
พระราชวังบาเฮีย (Bahia) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยสถาปนิก Si Moussa ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมรอคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ตกแต่งแกะสลักด้วยปูน (stucco) ประดับด้วยโมเสกและงานศิลปะวาดลวดลายบนบนไม้ บริเวณโดยรอบของวังจะรายล้อมไปด้วยสวน และน้ำพุ ให้ความร่มรื่น และสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
เมืองคาซาบลังกา (Casablanca) เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ แต่เดิมเป็นแค่เมืองท่าเล็กๆ แต่มาโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เมื่อภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย ฮัมฟรีย์ โบการ์ด และอินกริด เบิร์กแมน ออกฉายในปี ค.ศ. 1942 จนทุกวันนี้คาซาบลังกาก็กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ
สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Mosque of Hassan II) สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1993 ในวาระเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่มาก จุคนได้ราว 25,000 คน และมีหอคอยสูงถึง 210 เมตร ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส มิเชล แปงโซ การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกมีความสวยงามโดดเด่น เป็นไปตามเอกลักษณ์ของศิลปะมุสลิมที่ผสมผสานงานศิลปะพื้นเมืองของโมรอคโคได้อย่างกลมกลืน อาคารทั้งหลังใช้หินอ่อน แผ่นกระเบื้อง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553