หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา(Dambovita) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโรมาเนียอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว บูคาเรสต์ ยังเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เลยเพราะยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” แห่งโรมาเนีย
เมืองบราซอฟ (Brasov) เมืองที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไข่มุกเม็ดงามของประเทศโรมาเนีย เมืองที่ได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวว่า เป็นสวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ มีร่องรอยอันเก่าแก่ทางวัฒนธรรม เราสามารถท่องเที่ยวตัวเมืองได้ในบริเวณย่านเมืองเก่า สถานที่ที่เราจะได้ชื่นชมอาคารยุคกลาง ที่ค่อนข้างมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน และสัมผัสกลิ่นอายของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาความดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
จัตุรัสสภา (Piata Sfatului) ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารสภาชุมชนเมืองที่มีอายุกว่าพันปี จตุรัสแห่งนี้เป็นแหล่งชุมนุมของสถาปัตยกรรมศิลป์หลายสมัย นับตั้งแต่อาคารแบบโรมาเนสก์ โบสถ์สไตล์เรอเนสซองซ์ โรงแรมแบบบาร๊อค รวมถึงร้านกาแฟภายในอาคารแบบโรโคโค ซึ่งสร้างต่อเนื่องกันมาหลายๆสมัย โดยจัตุรัสแห่งนี้เป็นที่มาของการขนานนามว่า "เมืองบราซอฟเมืองงามที่สุดในโรมาเนีย"
ตลาดใจกลางเมืองบราซอฟ (Brasov Market Center) เป็นตลาดที่อยู่ใจกลางเมืองบราซอฟ เป็นตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนที่ซอกซอนระหว่างตึกเก่าต่างๆ มีสินค้ามากมายหลายชนิด เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องหนัง งานฝีมือ งานศิลปะ รวมถึงคอหนังสือไม่น่าพลาด เพราะในตลาดแห่งนี้มีร้านหนังสือมากมายหลายร้านเลยทีเดียว
โบสถ์ดำ (Black Church) ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 เป็นโบสถ์ที่ก่อสร้างตามแบบศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโรมาเนีย สาเหตุที่เรียกว่าโบสถ์ดำก็เพราะว่า โบสถ์แห่งนี้ถูกไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ.1689 ทำให้คราบดำจากเขม่าเกาะไปทั่วผนังโบสถ์จนกลายเป็นสีดำ ทางรัฐบาลจึงทิ้งให้อยู่ในลักษณะนี้ เพื่อให้เป็นความแปลกและเป็นจุดเด่นของโบสถ์ แต่ภายหลังคราบเขม่าดำได้หลุดลอกไปตามกาลเวลา จนทำให้ปัจจุบันผนังของโบสถ์มีสีไม่ค่อยดำเหมือนในอดีต
ปราสาทบราน (Bran Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในประเทศโรมาเนีย ปราสาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของปราสาทแดร็กคูล่า โดยตัวปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอด สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมควบคุมเส้นทางการค้าและเก็บภาษี ระหว่างแคว้นวาลันเซียและแคว้นทรานซิลวาเนีย นอกจากวิวทิวทัศน์จากตัวปราสาทแล้ว เรายังจะได้ชมวิวฟาร์ม อาคารบ้านเรือนในแบบดั้งเดิมของโรมาเนีย ซึ่งมีความสวยงามมากเลยทีเดียว
เมืองซินายา (Sinaia) เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในมณฑลพราโฮวา โดยตัวเมืองนั้นตั้งลึกเข้าไปในเทือกเขาคาร์เพเธียน เป็นเมืองรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมเมืองหนึ่งของประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศที่ดีมาก และมีความหลากหลายทางด้านทัศนียภาพ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าและกีฬาฤดูหนาว แนะนำว่าควรจะมาเมืองซินายาสักครั้งหนึ่ง
วิหารซินายา (Sinaia Monastery) โดยวิหารนี้ตั้งอยู่บนภูเขาซีนาย (Mount Sinai) ซึ่งเป็นวิหารขนาดใหญ่ของนิกายออร์โธดอกซ์
ปราสาทเปเลส (Peles Castle) ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเชกิ ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน ปราสาทแห่งนี้มีลักษณะคล้ายปราสาทสไตล์เยอรมัน ถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่โตเหมือนพระราชวังฤดูร้อนของประเทศอื่น ๆ ในยุโรป แต่ก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นปราสาทที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกอาคารเท่านั้น แต่ภายในก็ล้วนตกแต่งไว้อย่างวิจิตรประณีต ปัจจุบันเป็นสถานที่สาธารณะและพิพิธภัณฑ์ ที่เก็บสมบัติล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของประเทศโรมาเนีย
เมืองสลานิก (Slanic) เป็น 1 ใน 14 เมืองในจังหวัดปราโฮว่า และเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาที่อุดมไปด้วยแร่เกลือ จึงมีการขุดเจาะภูเขาเพื่อทำเหมืองเกลือมานานนับ 300 ปี ต่อมาได้มีการค้นคว้าศึกษาในการใช้ธรรมชาติบำบัดเพื่อการรักษาปอด เหมืองเกลือบางส่วนที่ความลึก 210 เมตร ได้ดัดแปลงเป็นสถานรักษาพยาบาลหรือโรงพยาบาลรักษาโรคปอดด้วยอากาศเค็ม
กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา(Dambovita) อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโรมาเนียอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว บูคาเรสต์ ยังเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองหลวงของประเทศอื่นๆ เลยเพราะยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” แห่งโรมาเนีย
ย่านเมืองเก่าบูคาเรสต์ (Bucharest Old Town) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ย่านเมืองเก่าแห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ ที่หลงเหลืออยู่ของศตวรรษที่ 17-18 ไม่ว่าจะเป็นถนน ธนาคาร โบสถ์ โรงแรมที่สร้างขึ้นในสมัยนั้น
ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศโรมาเนีย (Palace of Parliament) ทำเนียบแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา สถาปัตยกรรมสุดอลังการแห่งนี้เริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 1984 โดยนิโคไล เซาเซสคู ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติโรมาเนีย ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคมีขนาดใหญ่ถึง 270x240 เมตร มีความสูง 12 ชั้น ภายในอาคารมีห้องมากถึง 2,000 ห้อง ทั้งภายนอกและภายในอาคารตกแต่งอย่างหรูหรา ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ใช้เป็นรัฐสภาของประเทศ
เมืองไกเออร์จู หรือ เมืองจูร์จู (Giurgiu) เป็นอีกหนึ่งเมืองในประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ท่ามกลางโคลนแฟลตและบึงบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำดานูบ หันหน้าไปทางบัลแกเรีย และยังเป็นเขตพรมแดนเพื่อข้ามไปยังบัลแกเรียด้วย เมืองแห่งนี้มีที่พักอาศัยขนาดใหญ่ ทางทิศเหนือของเมืองไกเออร์จู อุดมไปด้วยเมล็ดพันธ์พืชต่างๆมากมาย นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไม้,เมล็ดพืช,เกลือ,น้ำมันปิโตรเลียม อีกด้วย
เมืองเวลีโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) หนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศบัลแกเรีย เพียงแค่เราเดินทางขึ้นไปทางเหนือของประเทศ ก็จะพบกับเมืองที่มีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ให้มาชื่นชมสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ชวนให้ต้องมนต์ขลังของโลกยุคโบราณจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น เมืองเวลีโค ทาร์โนโว เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก ด้วยความพร้อมในทุก ๆ ด้านเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของประเทศบัลแกเรียตอนเหนือนั่นเอง
ปราสาทซาร์เรเวต (Tsarevets Castle) เป็นอดีตที่ประทับของจักรพรรดิแห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญ และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ตั้งอยู่รายล้อมบริเวณริมแม่น้ำยานตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์
ย่านถนนกูร์โก้ (Gurko Street) ที่นี่เราจะพบกับบ้านที่มีการอนุรักษ์ไว้ในแบบดั้งเดิม โดยบ้านแต่ละหลังนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย
เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา มีสภาพแวดล้อมที่เป็นชนบทที่คล้ายคลึงกับ Great Plains ในสหรัฐอเมริกา แต่ในตัวเมืองกลับมีบางสิ่งที่โดดเด่นเหมือนกรุงโรม ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรม ทำให้เมืองพลอฟดิฟยังคงมีกลิ่นอายของยุคเรอเนสซองส์จนถึงปัจจุบัน สภาพตึกรามบ้านช่องยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งรูปแบบเดิม ทำให้เป็นที่น่าประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน
ย่านเก่าแก่ของเมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv Inveterate town) เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลก มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6 พันปี (นับตั้งแต่ยุคหินใหม่) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองโบราณที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม ศิลปะวัตถุโบราณและอนุสาวรีย์ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สิ่งก่อสร้างคลาสสิคในดินแดนแห่งนี้ เมื่อมองดูเผินๆ แล้วทำให้บรรยากาศรอบๆ เมืองเหมือนได้จัดฉากไว้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ เพราะตามซอกซอยต่างๆ ได้ดูคลาสสิคไปเสียทั้งหมด
เมืองรีล่า (Rila) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศบัลแกเรีย มีภูเขาสูงที่สุดของบัลแกเรียและเทือกเขาบอลข่าน โดยมียอดเขาที่ชื่อว่า มาซูล่า ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,925 เมตร
อารามมรดกโลกรีล่า (Rila Monastery) เป็นอารามของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด และมีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดของประเทศบัลกาเรีย อารามแห่งนี้ตั้งอยู่บนจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามของภูเขารีล่า ซึ่งอยู่ที่ระดับความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่เราสามารถมองเห็นแม่น้ำริลสก้าและดรุสย่าวิทซ่า ที่ไหลอยู่เบื้องล่างได้อย่างสวยงาม และอารามแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1983
พิพิธภัณฑ์ริล่า (Rila Museum) ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บสมบัติล้ำค่ามากมายของอารามมรดกโลกรีล่า รวมถึงเรื่องราวของประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 10 โดยจัดแสดงเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องที่จัดแสดงเครื่องแต่งกายของท่านอาร์คบิชอป ห้องที่จัดแสดงเครื่องพิมพ์กระดาษที่ทำจากแผ่นทองแดง ห้องที่จัดแสดงไม้กางเขนที่แกะสลักด้วยมือที่มีความละเอียดสูงมาก จึงสามารถสื่ออารมณ์ออกมาทางสีหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งใช้ในเวลาแกะสลักกว่า 12 ปี
เมืองโซเฟีย (Sofia City) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐบัลแกเรีย โซเฟียเป็นเมืองหลวงสุดน่ารัก เต็มไปด้วยอาคารเก๋ๆ ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีพาสเทล แค่เดินเล่นถ่ายรูปเฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว นอกจากนี้ยังมีร้านค้าให้เพื่อนได้ช้อปปิ้ง พร้อมคาเฟ่และร้านอาหารในเมืองบริเวณมาร์เก็ตฮอลล์ (Market Hall) ให้เราได้แวะชิม แวะช้อปอยู่มากมาย และสีสันในยามค่ำคืนก็ไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย
มหาวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี (Alexander Nevsky Cathedral) ซึ่งถือเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของภูมิภาค ก่อสร้างในแบบโดมหลังคาทรงกลมสีเขียว ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่วิตรตระการตา สามารถจุผู้เข้าทำพิธีได้ประมาณ 10,000 คน ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิค อเล็กซานเดอร์ โพมีรานท์เซฟ
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (The Sofia Synagogue) ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิหาร เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม และยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ยิวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ โดยโบสถ์แห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ Moorish Revival ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ฟริดริช กรูนันเกอร์ (Friedrich Grunanger)
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553