สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
เมืองทาสช์ (Tasch) ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประชากรส่วนใหญ่ในเมืองนี้จะใช้ภาษาเยอรมัน เมืองนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,449 เมตร เป็นเมืองหนึ่งที่จะให้เราสัมผัสกับธรรมชาติบนภูเขา เขตรีสอร์ทและธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี สำหรับนักท่องเที่ยวจะมาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเพื่อสุขภาพ สัมผัสความเงียบสงบ หรือความโลดโผน
เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ทางเมืองไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในบริวเวณมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนจะไปเที่ยวเมืองเซอร์แมตส์ ต้องเดินทางเข้าไปโดยรถไฟเท่านั้น
แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) แซร์แว็ง หรือ แชร์วีโน ยอดเขาสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ มีความสูงถึง 4,478 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาสูงมียอดแหลมทรงคล้ายพีระมิด และมีหิมะปกคลุมทั้งปี ยอดเขาแห่งนี้เป็นอีกจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยียมชม และด้วยความงามแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ยอดเขานี้ ทำให้บริษัทชื่อดังระดับโลกใช้ยอดเขานี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลโก้ เช่น พาราเมาท์พิคเจอรส์ (Paramount Pictures) และ ช็อคโกแลตทรูเบอร์โลน (Toblerone)
เมืองท่องเที่ยวและเมืองสำคัญในแคว้นวัลเล่ส์ ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการขนานนามว่า The largest alpine thermal spa in Europe แหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่โด่งดังที่สุดในเขตเทือกเขาแอลป์ เชิญเที่ยวชมและสัมผัสกับทัศนียภาพอันตระการตา พบกับมนต์เสน่ห์ของผู้คน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ประวัติศาตร์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์
เมืองกรุยแยร์ เมืองชนบทสวยงาม ได้รับการกล่าวขานมาช้านานว่าเป็นแหล่งผลิตเนยแข็งที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังสามารถผลิตแฮม ครีมสตรอเบอร์รี่ สตรอเบอรี่มิลเฟย และช้อคโกแลตที่มีคุณภาพได้เป็นจำนวนมาก รสชาดอร่อยมากๆ มีขายตามร้านค้าทั่วไป และที่นี่ ยังมีโรงงาน ลา เมซอง ดู กรุยแยร์ มีชื่อเสียงเรื่องของการผลิตเนยแข็ง รสชาดเข้มข้นมาก เชิญเที่ยวชมเมืองเล็กๆ บรรยากาศดี พร้อมชิม และช้อปแหล่งผลิตเนยแข็งไปฝากเพื่อนๆ
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
สวนหมี หรือ บ่อหมี Barengraben (บาเรนกราเบิน) สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์น ซึ่งสวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หรือ หอระฆังซิทกล็อด เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองเบิร์น เริ่มแรกที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นประตูเมืองในช่วงปี คศ. 1191-1256 ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์ จากนั้นที่นี่จึงกลายเป็นหอนาฬิกาและสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมือง มีตุ๊กตา ทั้งคน สิงโต หมี ที่ติดตั้งอยู่ภายในออกมาหมุน มีไก่ออกมาขันเต้นรำไปรอบๆ เป็นจุดไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันทุกๆ ชั่วโมง
ถนนมาร์คแกส หรือ Marktgasse Street ตั้งอยู่เมืองเบิร์น เป็นเมืองโบราณยุคกลาง แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ถนนเส้นนี้เต็มไปด้วย อาคารบ้านเรือนสมัยเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ลักษณะของบ้านสร้างจากอิฐ ปูน และใช้ไม้ในการทำลวดลาย เป็นแบบเฉพาะของสไตล์บาร็อค ภาพเขียนสีสวยตามผนังตึกต่างๆ ด้านล่างตามตึกก็ทำเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟนั่งเล่น จุดเด่นถนนแห่งนี้ คือหอนาฬิกาซิคล๊อคเกอร์ (Zytgloggeturm) ใหญ่และเก่าแก่ มีอายุประมาณ 500 ปี
มหาวิหารแห่งเบิร์น (The Cathedral of Bern) เป็นศาสนสถานของศาสนาคริสต์ที่มีขนาดใหญ่โตมากแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศักราช 1421 ผ่านกาลเวลาและผู้สร้างแต่ละรุ่นมาจนถึงปี ค.ศ. 1893 จึงแล้วเสร็จ ด้วยความสูงของหอคอยสถาปัตยกรรมโกธิคที่สูงถึง 100 เมตรทำให้ที่นี่กลายเป็นวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
กรินเดลวาลด์ (Grindelwald) เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ (Bernese-Alps) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร เมืองเล็กๆ แห่งนี้คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก เนื่องจากกรินเดลวาลด์เป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวและมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วย
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster) โบสถ์เก่าแก่แห่งเมืองซูริค ที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 9 ขึ้นชื่อเรื่องงานกระจกสี (Stain Glass) อันสวยงามโดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินเลื่องชื่อในอดีต มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall) และออร์แกนโบราณขนาดมหึมาภายในโบสถ์ ข้อสำคัญสำหรับการไปเข้าชมคือ โบสถ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน แต่สามารถซื้อโปสการ์ดที่ระลึกได้ และยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ของเมืองซูริคอีกด้วย เพื่อนๆ จะเห็น โบสถ์หลังคาสีฟ้า เด่นมาแต่ไกล โบสถ์แห่งนี้ อยู่ใกล้ย่านการค้าที่สำคัญของซูริคอีกด้วย
ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) ถนนย่านการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นถนนสายช็อปปิ้งหลักของเมืองซูริค ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตลอดสองฝั่ง โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมดังระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553